วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

American Authors - Best Day Of My Life (วันที่ดีที่สุดในชีวิต)




เพลงนี้ติดเถื่อนๆนิดๆนะครับ ตามอารมณ์คนแปล 5555 สนุกมากๆครับเพลงนี้ เพราะด้วย



I had a dream so big and loud
ผมมีฝันที่แสนจะยิ่งใหญ่เลยล่ะ
I jumped so high I touched the clouds
ผมกระโดดได้สูงถึงแตะเมฆสีขาวนั่นเลยนะ
Wo-o-o-o-o-oh [x2]
I stretched my hands out to the sky
ผมยื่นมือสองข้างนี้ออกไปหาท้องฟ้า
We danced with monsters through the night
พวกเราร่วมเริงรำบำกับสัตว์ในคือนี้สินะ
Wo-o-o-o-o-oh [x2]

I'm never gonna look back
ผมไม่มีทางหันกลับไปแน่นอน
Whoa, I'm never gonna give it up
และก็ไม่มีวันจะยอมแพ้ด้วย
No, please don't wake me now
ไม่นะ อย่ามาปลุกผมตอนนี้เชียวนะ
(2, 3, 4)
Oo-o-o-o-oo
This is gonna be the best day of my life
นี่แม่งคงเป็นวันที่โครตดีของชีวิตผมเลยว่ะ
My li-i-i-ife
ในชีวิตของพ้มมมมม
Oo-o-o-o-oo
This is gonna be the best day of my life
นี่แม่งคงเป็นวันที่โครตดีของชีวิตผมเลยว่ะ
My li-i-i-ife
ในชีวิตของพ้มมมมม

I howled at the moon with friends
ผมเห่าหอนกับเพื่อนใส่ดวงจันทร์ (แปลแล้วขำ 5555)
And then the sun came crashing in
และแล้วแสงอาทิตย์ก็สาดส่องขึ้นมา
Wo-o-o-o-o-oh [x2]
But all the possibilities
แต่ทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ใช่มั้ยล่ะ?
No limits just epiphanies
ไม่มีขีดจำกัดใดๆ
Wo-o-o-o-o-oh [x2]

I'm never gonna look back
ผมไม่มีทางหันกลับไปแน่นอน
Whoa, I'm never gonna give it up
และก็ไม่มีวันจะยอมแพ้ด้วย
No, please don't wake me now
ไม่นะ อย่ามาปลุกผมตอนนี้เชียวนะ

Oo-o-o-o-oo
This is gonna be the best day of my life
นี่แม่งคงเป็นวันที่โครตดีของชีวิตผมเลยว่ะ
My li-i-i-ife
ในชีวิตของพ้มมมมม
Oo-o-o-o-oo
This is gonna be the best day of my life
นี่แม่งคงเป็นวันที่โครตดีของชีวิตผมเลยว่ะ
My li-i-i-ife
ในชีวิตของพ้มมมมม

I hear it calling outside my window
ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากนอกหน้าต่างนะ
I feel it in my soul (soul)
ผมรู้สึกได้จากจิตวิญญาณผมเลยล่ะ
The stars were burning so bright
นี่ดาวบนฟ้ามันสุกสกาวขนาดนี้เชียว
The sun was out 'til midnight
ตะวันลับขอบฟ้าตอนเที่ยงคืน
I say we lose control (control)
ผมได้แต่พูดว่า มันนอกการควบคุมตูนี่หว่า


Oo-o-o-o-oo
This is gonna be the best day of my life
นี่แม่งคงเป็นวันที่โครตดีของชีวิตผมเลยว่ะ
My li-i-i-ife
ในชีวิตของพ้มมมมม
Oo-o-o-o-oo
This is gonna be the best day of my life
นี่แม่งคงเป็นวันที่โครตดีของชีวิตผมเลยว่ะ
My li-i-i-ife
ในชีวิตของพ้มมมมม

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Imagine Dragons - Bleeding Out (ทนเจ็บปวดเพื่อคุณ)

เป็นเพลงที่ค่อนข้างแปลง่ายกว่าเพลงอื่นของวงนี้นะผมว่า มันเหมือนการยอมเลิกกับแฟนยอมทนเจ็บเพื่อนให้เค้าได้ดีประมาณนี้ครับส่วนตัวแล้วชอบเพลงนี้ครับ ดนตรีนี้แบบสุดยอดครับ เพราะจริงๆ



I'm bleeding out
ผมต้องเจ็บอีกแล้วสินะ
So if the last thing that I do
อะไรๆก็ตามที่ผมทำ
Is bring you down
มันพาคุณดิ่งลงเหวสินะ
I'll bleed out for you
ผมต้องทนเจ็บเพื่อคุณนี่แหละ
So I bare my skin
ผมกรีดเลือดกรีดเนื้อตัวเอง
And I count my sins
นั่งนับบาปที่ติดตัว
And I close my eyes
และผมก็ค่อยๆปิดตาลง
And I take it in
บางที่ผมก็ต้องใช้เวลานะ
I'm bleeding out
ในการทนความเจ็บปวดนี้
I'm bleeding out for you, for you.
ผมยอมเจ็บเพื่อคุณ เพื่อคุณเลย

When the day has come
และแล้วก็ถึงวันนี้แล้วสิ
That I've lost my way around
ผมเสียทุกๆอย่าของผมไป
And the seasons stop and hide beneath the ground
เหมือนทุกๆอย่างมันหยุดลงเลยนะ ได้แต่คอยแอบซ่อน
When the sky turns gray
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้วสิ
And everything is screaming
ทุกๆอย่างมันกรีดร้องครวญคราง
I will reach inside
ผมจะเข้าไปให้ถึงข้างใน
Just to find my heart is beating
ไปหาหัวใจของผมที่มันยังคงเต้นอยู่

Oh, you tell me to hold on
คุณบอกให้ผมเชื่อมั่น
Oh, you tell me to hold on
คุณบอกนะว่าให้ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ
But innocence is gone
แต่ผมคงจะไม่เชื่อแล้วล่ะ
And what was right is wrong
ทุกอย่างๆมันกลับตาลปัตรแล้ว

'Cause I'm bleeding out
เพราะผมต้องยอมเจ็บ
So if the last thing that I do
อะไรๆก็ตามที่ผมทำ
Is bring you down
มันพาคุณดิ่งลงเหวสินะ
I'll bleed out for you
ผมต้องทนเจ็บเพื่อคุณนี่แหละ
So I bare my skin
ผมกรีดเลือดกรีดเนื้อตัวเอง
And I count my sins
นั่งนับบาปที่ติดตัว
And I close my eyes
และผมก็ค่อยๆปิดตาลง
And I take it in
บางที่ผมก็ต้องใช้เวลานะ
I'm bleeding out
ในการทนความเจ็บปวดนี้
I'm bleeding out for you (for you)
ผมยอมเจ็บเพื่อคุณ เพื่อคุณเลย

When the hour is nigh
เมื่อเวลานั้นมาถึง
And hopelessness is sinking in
ความสิ้นหวังมันได้กระแทกเข้ามา
And the wolves all cry
หมาป่าทุกๆตัวร้องกระหาย
To fill the night with hollering
เพื่อเติมเต็มคืนนี้ด้วยเสียงกรีดร้อง
When your eyes are red
เมื่อเนตรของคุณเริ่มเปลี่ยนสีเป็นแดง
And emptiness is all you know
อะไรๆก็ตามมันกลายเป็นสิ่งที่ว่างเปล่า
With the darkness fed
เต็มไปด้วยความมืดมน
I will be your scarecrow
ผมนี่แหละจะคอยคุ้มกันคุณเอง
**ตรงท่อนนี้ scarecrow คือหุ่นไล่กานะครับ แต่เป็นการเปรียบเทียบเหมือนคนที่เค้าพูดถึงเนี่ยคือเป็นต้นข้าวนะครับ เค้าจะคอยคุ้มกันจากอีกา อีกามันสีดำใช่มั้ยครับ ก็เปรียบเทียบให้เหมือนความชั่วร้ายนี่แหละครับ แปลตามผมเข้าใจนะ 555***

you tell me to hold on
คุณบอกให้ผมเชื่อมั่น
Oh, you tell me to hold on
คุณบอกนะว่าให้ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ
But innocence is gone
แต่ผมคงจะไม่เชื่อแล้วล่ะ
And what was right is wrong
ทุกอย่างๆมันกลับตาลปัตรแล้ว


'Cause I'm bleeding out
เพราะผมต้องยอมเจ็บ
So if the last thing that I do
อะไรๆก็ตามที่ผมทำ
Is bring you down
มันพาคุณดิ่งลงเหวสินะ
I'll bleed out for you
ผมต้องทนเจ็บเพื่อคุณนี่แหละ
So I bare my skin
ผมกรีดเลือดกรีดเนื้อตัวเอง
And I count my sins
นั่งนับบาปที่ติดตัว
And I close my eyes
และผมก็ค่อยๆปิดตาลง
And I take it in
บางที่ผมก็ต้องใช้เวลานะ
I'm bleeding out
ในการทนความเจ็บปวดนี้
I'm bleeding out for you, for you.
ผมยอมเจ็บเพื่อคุณ เพื่อคุณเลย

I'm bleeding out for you (for you)
ผมยอมเจ็บเพื่อคุณ เพื่อคุณเลย
I'm bleeding out for you (for you)
ผมยอมเจ็บเพื่อคุณ เพื่อคุณเลย
I'm bleeding out for you (for you)
ผมยอมเจ็บเพื่อคุณ เพื่อคุณเลย
I'm bleeding out for you
ผมยอมเจ็บเพื่อคุณ

I'm bleeding out
ผมต้องเจ็บอีกแล้วสินะ
So if the last thing that I do
อะไรๆก็ตามที่ผมทำ
Is bring you down
มันพาคุณดิ่งลงเหวสินะ
I'll bleed out for you
ผมต้องทนเจ็บเพื่อคุณนี่แหละ
So I bare my skin
ผมกรีดเลือดกรีดเนื้อตัวเอง
And I count my sins
นั่งนับบาปที่ติดตัว
And I close my eyes
และผมก็ค่อยๆปิดตาลง
And I take it in
บางที่ผมก็ต้องใช้เวลานะ
I'm bleeding out
ในการทนความเจ็บปวดนี้
I'm bleeding out for you, for you.
ผมยอมเจ็บเพื่อคุณ เพื่อคุณเลย

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Imagine Dragons - It's Time (ถึงเวลา)



ผมไม่แน่ใจนะครับเพลงนี้เค้าพูดกับใคร 555 ให้เดาก็คงครอบครัวแหละครับ แล้วก็นักร้องนำวงนี้
ออกจากมหาลัยเพื่อมาวงนี้นะครับ ตามฝันตัวเองนั้นและ ท่อนช่วงแรกๆมีอยู่ครับ
ให้กำลังใจดีนะครับ ผมชอบ ชอบวงนี้ด้วย ติ่งไปเลยตอนนี้ 5555 มีอีกหลายเพลงครับวงนี้


So this is what you meant
นี่ใช่มั้ยที่คุณหมายถึง
When you said that you were spent
อะไรก็ตามที่คุณพูดมันไร้สาระว่ะ
And now it's time to build from the bottom of the pit
มันของถึงเวลาที่ผมจะต้องออกจากที่แห่งนี้แล้วล่ะ
Right to the top
ปีนป่ายไปให้ถึงจุดสูงสุด
Don't hold back
ไม่ต้องยื้อผมหรอกนะ
Packing my bags and giving the academy a rain-check
ช่วยแพ็คกระเป๋าให้ผมด้วยนะ แล้วก็ลาออกจากโรงเรียนให้ผมด้วยล่ะ
(สำนวน - Rain-check = เลื่อนไปก่อน(เวลา) ตัวอย่างการใช้ Can I have a rain check? ขอเลื่อนไปก่อนได้ไหม แต่ในที่นี้ผมขอแปลว่าลาออกนะครับ 555)


I don't ever wanna let you down
ผมไม่ได้อยากทำให้คุณผิดหวังนะ
I don't ever wanna leave this town
และก็ไม่ได้อยากจากที่นี้ไปนะ
'Cause after all
เพราะยังไงก็ตาม
This city never sleeps at night
เมืองนี้ก็ไม่เคยหลับไหลอยู่แล้ว


It's time to begin, isn't it?
มันถึงเวลาที่จะเริ่มต้นแล้ว ใช่มั้ย?
I get a little bit bigger but then I'll admit
ผมจะไต่เต้าตัวเองขึ้นไปจนทุกคนยอมรับผม
I'm just the same as I was
ยังไงผมก็เป็นตัวของตัวเองนี่แหละ
Now don't you understand
ที่นี้คุณเข้าใจรึยังล่ะ
That I'm never changing who I am
ผมไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอก


So this is where you fell
หนทางของคุณมันล้มเหลวโดนสิ้นเชิง
And I am left to sell
แล้วผมจะออกจากทางเดินที่คุณปูไว้
The path to heaven runs through miles of clouded hell
ทางของความสำเร็จมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะ
Right to the top
การจะขึ้นไปจุดสูงสุดได้
Don't look back
มันต้องอย่ามองกลับมา
Turning to rags and giving the commodities a rain-check
เตรียมตัวอับจนแล้วเลิกซื้อของแพงๆไปได้เลย


I don't ever wanna let you down
ผมไม่ได้อยากทำให้คุณผิดหวังนะ
I don't ever wanna leave this town
และก็ไม่ได้อยากจากที่นี้ไปนะ
'Cause after all
เพราะยังไงก็ตาม
This city never sleeps at night
เมืองนี้ก็ไม่เคยหลับไหลอยู่แล้ว


It's time to begin, isn't it?
มันถึงเวลาที่จะเริ่มต้นแล้ว ใช่มั้ย?
I get a little bit bigger but then I'll admit
ผมจะไต่เต้าตัวเองขึ้นไปจนทุกคนยอมรับผม
I'm just the same as I was
ยังไงผมก็เป็นตัวของตัวเองนี่แหละ
Now don't you understand
ที่นี้คุณเข้าใจรึยังล่ะ
That I'm never changing who I am
ผมไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอก


It's time to begin, isn't it?
มันถึงเวลาที่จะเริ่มต้นแล้ว ใช่มั้ย?
I get a little bit bigger but then I'll admit
ผมจะไต่เต้าตัวเองขึ้นไปจนทุกคนยอมรับผม
I'm just the same as I was
ยังไงผมก็เป็นตัวของตัวเองนี่แหละ
Now don't you understand
ที่นี้คุณเข้าใจรึยังล่ะ
That I'm never changing who I am
ผมไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอก


This road never looked so lonely
บอกเลยหนทางนี้ไม่ได้โหดอย่างที่คิดหรอกนะ
This house doesn't burn down slowly
และอนาคตของผมมันไม่ได้ถูกเผาไปจนหมดนะ
To ashes, to ashes
มันยังเหลือเถ้าถ่านไว้ให้เชยชมอยู่


It's time to begin, isn't it?
มันถึงเวลาที่จะเริ่มต้นแล้ว ใช่มั้ย?
I get a little bit bigger but then I'll admit
ผมจะไต่เต้าตัวเองขึ้นไปจนทุกคนยอมรับผม
I'm just the same as I was
ยังไงผมก็เป็นตัวของตัวเองนี่แหละ
Now don't you understand
ที่นี้คุณเข้าใจรึยังล่ะ
That I'm never changing who I am
ผมไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอก


It's time to begin, isn't it?
มันถึงเวลาที่จะเริ่มต้นแล้ว ใช่มั้ย?
I get a little bit bigger but then I'll admit
ผมจะไต่เต้าตัวเองขึ้นไปจนทุกคนยอมรับผม
I'm just the same as I was
ยังไงผมก็เป็นตัวของตัวเองนี่แหละ
Now don't you understand
ที่นี้คุณเข้าใจรึยังล่ะ
That I'm never changing who I am
ผมไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอก